7 วิธีรับมือกับภาวะภัยแล้งในปี 2559

ปี 2559 นี้ สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มจะปรากฎให้เห็นในหลายพื้นที่ของประเทศไทยแล้วนะคะ Filmpro Thailand ก็เลยนำ 7 วิธีรับมือกับภัยแล้งแบบง่ายๆมาฝากกันค่ะ

1.ไม่ควรกินน้ำแข็งหรือดื่มน้ำเย็นจัด เพราะการดื่มน้ำเย็นในช่วงที่อากาศร้อน จะทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน จึงอาจทำให้เกิดอาการจุกแน่นที่หน้าอก และควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ท่ามกลางอากาศร้อน เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

2.ควรเลือกทานอาหารอ่อนๆ ในตอนเช้า และหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกเนื้อสัตว์และไขมัน เพราะต้องใช้พลังงานในการย่อยอาหารสูง และเมื่อระบบทางเดินอาหารทำงานหนักก็จะทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย

3.ไม่ควรสวมเสื้อผ้าหนาๆ สีทึบๆ ที่ระบายความร้อนได้ยาก และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในช่วงเวลา 10.00-15.00 น. เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่อุณหภูมิจะพุ่งสูงขึ้นกว่าช่วงอื่นๆ ของวัน

4.ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง และไม่ควรนอนในที่มีลมพัดผ่านโดยตรง เพราะความร้อนจากแดด จะทำให้เสียเหงื่อ เมื่อนอนหลับตากลมในขณะเหงื่อออก จะทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง ถ้าอุณหภูมิภายนอกยังสูงอยู่ แล้วเหงื่อไม่สามารถระบายออกมาได้ จะมีความร้อนสะสมอยู่ข้างใน ทำให้เวียนหัว และอาจทำให้เป็นหวัดได้ โดยเฉพาะที่บริเวณท้อง หากโดนลมนานๆ จะทำให้ท้องอืด ปวดท้อง ท้องเสียได้ สำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่สุขภาพไม่ดี ควรนอนพักหลังเที่ยงสักครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง

5.อย่าทา “ครีมกันแดด” อย่างเร่งรีบ ควรทาให้ทั่วถึง แม้แต่ในร่มผ้าด้วย โดยทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง

6.การออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬากลางแดด ควรจะหาหมวกมาสวมใส่เพื่อกันแดด และอย่าให้ร่างกายขาดน้ำเด็ดขาด สำหรับอาการที่อาจเกิดได้เมื่อออกกำลังกายกลางแจ้ง คือ ตะคริวแดด เพลียแดด และเป็นลมแดด

7.อากาศที่ร้อนจัด นอกจากจะมีผลต่อร่างกายแล้ว ยังมีผลต่อสภาวะด้านอารมณ์ด้วย ซึ่งจะทำให้รู้สึกหงุดหงิด และหดหู่ได้ง่าย ดังนั้นควรลองออกไปเดินเล่นในช่วงบ่ายแก่ๆ หรือช่วงที่คนไม่มาก และที่สิ่งสำคัญคือ พยายามกระฉับกระเฉงเข้าไว้

หากเราเตรียมร่างกายให้พร้อมตาม 7 วิธีง่ายๆดังที่ได้กล่าวไป ไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าไหนๆ เราก็จะมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ ไม่ต้องกังวลกับโรคภัยที่ย่างกรายเข้ามาอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ

บทความจาก Filmpro Thailand