แรงบันดาลใจในการรักษ์โลก จาก 10 ถาพยนตร์ดัง

หลายครั้งเรามองภาพอนาคตเสมือนจริงผ่านจอภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของอนาคตที่โลกต้องประสบกับมหาวิบัติภัยที่คร่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก พร้อมกับทิ้งคำถามให้เราคิดว่าเราจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อปกป้องทุกสรรพชีวิตอันเป็นเพื่อนร่วมโลกของเรา รวมถึงปกป้องโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ มีหลากหลายวิธีที่เราช่วยกันลงมือเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลกของเราได้ Filmpro จึงอยากมาแนะนำ 10 ถาพยนตร์ดีๆ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนรักษ์โลกเพิ่มขึ้นค่ะ

1. By the River: สายน้ำติดเชื้อ (2014)

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสายน้ำปนเปื้อนสารตะกั่วไม่เคยจากไปไหน ถึงแม้จะมองไม่เห็นด้วยตา และเกิดขึ้นมาเป็นเวลา 30 ปี ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเสนอเรื่องราวชะตากรรมของชาวบ้านคลิตี้ ที่ต้องรับผลกระทบในสิ่งที่ไม่ได้ก่อ สะท้อนปัญหาสิ่งแวดล้อมกับ 30 ปีที่ลำห้วยคลิตี้ปนเปื้อนสารตะกั่วจากโรงแต่งแร่ และ 16 ปีที่ชาวบ้านลุกขึ้นมาต่อสู้ จนชนะคดีศาลปกครอง

2. The Day after Tomorrow (2004)

เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนที่ส่งผลต่อโลกอย่างมหาศาลถูกถ่ายทอด ผ่านทางภาพยนตร์ The Day After Tomorrow ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเหตุการณ์ที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคน้ำแข็งครั้งใหม่ และเป็นบทเรียนอันสำคัญสำหรับมนุษยชาติว่า “ หากเราไม่ดูแลธรรมชาตินับแต่วันนี้ วันมะรืนนี้ก็คงไม่มีอีกต่อไป…”

3. Dr. Seuss’ The Lorax (2012)

ภารกิจเพื่อพิชิตใจออเดรย์ สาวที่เท็ดหลงรักได้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เท็ดออกเดินทางผ่านกำแพงสูงใหญ่ สู่สภาพสิ่งแวดล้อมที่แท้จริง จนได้คำตอบว่าทำไมต้นไม้ถึงหายไปจากเมือง รวมถึงเรื่องราวของปู่โลแร็กซ์ เทพผู้พิทักษ์ผืนป่า แต่การนำต้นไม้มาปลูกในเมืองถูกขัดขวางโดยบริษัทขายอากาศบรรจุกระป๋อง ด้วยเหตุผลว่า “ต้นไม้เป็นสิ่งที่ให้อากาศบริสุทธิ์อย่างฟรีๆ ถ้าปล่อยให้มีต้นไม้ เราก็ทำธุรกิจไม่ได้” สิ่งที่เท็ดต้องทำจึงไม่ใช่เพียงปลูกต้นไม้ในหมู่บ้าน แต่คือการปลูกความเข้าใจของคนในเมืองให้เห็นความสำคัญของต้นไม้ด้วย ปู่โลแร็กซ์ “พูดแทนต้นไม้ เพราะต้นไม้ไม่สามารถพูดได้”

4. WALL-E (2008)

โลกในปีค.ศ. 2805 ได้กลายเป็นแหล่งทิ้งขยะขนาดใหญ่ของมวลมนุษยชาติ เนื่องมาจากการบริโภคนิยมแบบทิ้งขว้างอย่างไร้ขอบเขตของมนุษย์ และเผาผลาญทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนกระทั่งโลกเต็มไปด้วยขยะและไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ หุ่นยนต์คัดแยกและบดอัดขยะชื่อ WALL-E เป็นหุ่นยนต์ในโครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมซึ่งล้มเหลวไม่เป็นท่า ประมาณ 700 ปีต่อมา บนโลกเหลือเพียงหุ่นยนต์ WALL-E หนึ่งตัวที่มนุษย์ลืมปิดสวิตซ์ทิ้งไว้ ง WALL-E พบกับหุ่นยนต์อีกตัวชื่อ EVE ที่ถูกส่งมาสำรวจการเติบโตของ “พืชสีเขียว” บนโลก และตกหลุมรักเธอ

5. March of the Penguins (2005)

ภาพยนตร์ที่เติมความอบอุ่นในหัวใจท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บของแอนตา ร์กติกา กับเรื่องราวชีวิตเพนกวินจักรพรรดิที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความลำบากแสน เข็ญ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเป็นวิกฤตของโลกยิ่งทำให้วิถีชีวิต ของพวกมันตกอยู่ในความเสี่ยงและขยับใกล้การสูญพันธุ์ยิ่งขึ้น

6. Happy Feet (2006)

อีกหนึ่งภาพยนตร์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่มีเพนกวินเป็นตัวเอก โดยคราวนี้เป็นเรื่องราวของปัญหาการประมงเกินขนาดในดินแดนแอนตาร์กติกา ปัญหานี้ถูกเล่าผ่านทางมุมมองของเหล่าเพนกวินที่กำลังเผชิญกับการคุกคามของ มนุษย์ มลพิษทางทะเลที่มนุษย์ก่อขึ้นส่งผลให้เพนกวินตัวหนึ่งต้องติดอยู่ในขยะ รวมถึงยังสือถึงสัตว์น้ำที่กลายมาเป็นเพียงสิ่งบันเทิงสำหรับมนุษย์ในสวน สัตว์ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่อนิเมชั่นเกี่ยวกับเพนกวินน่ารักๆ ธรรมดา แต่กลับแฝงถึงผลกระทบต่อสัตว์ที่อยู่ไกลออกไปถึงขั้วโลกใต้จากฝีมือของ มนุษย์โดยที่เราอาจไม่รู้ตัว

7. Avatar (2009)

ดาวแพนดอรา เป็นดาวที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์อยู่ไกลจากโลกหลายล้านปีแสง โดยมีชาวนาวีเป็นชนพื้นเมืองอาศัยอยู่ มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่และความเชื่อที่เคารพและพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ แต่เช่นเดียวกับความอุดมสมบูรณ์แห่งต่างๆ ในโลก ดาวดวงนี้กำลังถูกกองทัพมนุษย์โจมตีเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มนายทุน ที่ต้องการทรัพยากรธรรมชาติ

หลังจากที่เจคได้เข้าไปใช้ชีวิตกับชาวนาวีแล้ว จากเป้าหมายเพียงเพื่อการสอดแนมให้กับกองทัพก็เปลี่ยนไป เจคหันกลับมาร่วมต่อสู้เคียงข้างชาวนาวีเพื่อรักษาป่าเอาไว้

8. An Inconvenient Truth (2006)

ภาพยนตร์สารคดีสิ่งแวดล้อมเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่จุดชนวนให้คน ทั้งโลกตระหนักถึงวิกฤตโลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้น และผลักดันให้ยุติการถกเถียงปฏิเสธข้อเท็จจริง ด้วยการเปิดโปงว่ามนุษย์เป็นผู้ก่อก๊าซเรือนกระจก ยิ่งปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้นเท่าไรก็จะยิ่งเร่ง อุณหภูมิของโลก และเร่งการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกมากขึ้นเท่านั้น

โลก เป็นบ้านหลังเดียว และหลังสุดท้ายของเรา เราเลือกได้ว่าจะยืนดูและปฏิเสธปัญหา หรือจะก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไข เพราะหากมนุษย์สามารถสร้างมลพิษที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับโลกได้ มนุษย์ก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นได้เช่นกัน

9. Erin Brockovich (2000)

ชีวิตจริงของผู้หญิงที่ต่อสู้ฟ้องร้องต่อศาลเรียกค่าเสียหายมูลค่า มากกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากบริษัทแปซิฟิก แก๊ส แอนด์ อิเล็กทริค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ลักลอบปล่อยสารพิษลงไปปนเปื้อนน้ำใต้ดิน และก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพของผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกรอบโรงงาน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการตั้งคำถามถึงกฎหมายกับความยุติธรรม โดยเฉพาะกับการต่อกรกับบริษัทที่มีเงินทุนและอำนาจ ซึ่งใช้กลไลทางกฎหมายเอารัดเอาเปรียบผู้ด้อยโอกาส ถือเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ดีที่สุดที่นำเสนอด้านมลพิษทางน้ำ

10. Big Miracle (2012)

เรื่องสุดท้ายคือ ภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของกรีนพีซกับการช่วยเหลือ 3 วาฬสีเทา ที่ติดกับดักอยู่ท่ามกลางก้อนน้ำแข็งในทะเลอาร์กติก มีภูเขาน้ำแข็งขวางกั้นทางออกสู่ทะเล และเหลือช่องให้หายใจเพียงนิดเดียว เป็นภารกิจที่ต้องระดมกำลังและเครื่องมือจากทุกฝ่ายเพื่อช่วยเหลือ ที่ทำให้คนทั้งโลกติดตามและเอาใจช่วย 

กรีนพีซต่อสู้เพื่อผลักดันยุติการขุดเจาะน้ำมันที่อาร์กติก และการล่าวาฬมายาวนาน แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการสื่อคือ เราสามารถร่วมมือกันเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมได้ ทั้งสัตว์อันน่ามหัศจรรย์ และโลกของเรา รวมถึงตัวเราเองด้วย


Cr. greenpeace.org

Filmpro - ผู้เชียวชาญตัวจริงด้านฟิล์มอาคาร ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี

ตัวอย่างลูกค้า

ตัวอย่างลูกค้าแบรนด์ต่างๆที่ใช้บริการติดฟิล์มกรองแสงกันร้อนกับ Filmpro อ่านต่อ...